ARTICLE FEATURE l VIDEO FEATURE
CURVE HOUSE
words by another room l Photography by THANAWATCHU.MAISON
Project Name : Loonny House
Owner : Nunthapong Boonnao, Punchad Suangkaew
Interior design : AVIV Studio
Landscape : Plookplook.homegarden
Lighting Designer : Lamptitude
Area : 276 sq.m
Year : 2022
Location : Suan Luang, Bangkok, Thailand
Photographs : THANAWATCHU.MAISON
Contractor : WAWARA design
LOONNY HOUSE ทาวน์โฮมสไตล์มินิมอล อยู่สบายด้วยคอร์ตกลางบ้าน
ทาวน์โฮมเป็นรูปแบบที่พักอาศัยพบเห็นได้ทั่วไปในพื้นที่ใจกลางเมืองใหญ่ แต่ถ้าหากมีบ้านทาวน์โฮมที่ตอบโจทย์สภาวะน่าสบายให้แก่เจ้าของบ้านอย่าง LOONNY HOUSE ที่ให้การอยู่อาศัยในบริบทเมืองไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไปก็คงจะดีไม่น้อย
หลังจากที่เจ้าของบ้านตัดสินใจซื้อบ้านภูริปุรี โครงการทาวน์โฮมดีไซน์ร่วมสมัยแห่งนี้ที่โดดเด่นด้วยคอร์ตสวนกลางบ้าน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างบรรยากาศ ด้วยพื้นที่โปร่ง โล่ง ทำให้สามารถเติมเต็มความต้องการของเจ้าของบ้านได้อย่างลงตัว
AVIV Studio อินทีเรียดีไซน์เนอร์ที่ช่วยเข้ามาผสานไลฟ์สไตล์แฟชั่นของผู้อยู่อาศัยให้เข้ากันกับตัวสถาปัตยกรรมตั้งแต่ mood and tone การวางผังฟังก์ชันใช้งานของแต่ละพื้นที่ให้เข้ากับบริบทของสถาปัตยกรรม เมื่อคอร์ตยาร์ดคือใจกลางสำคัญนั้นมีขนาดเกือบหนึ่งในสามของบ้าน พื้นที่นี้จึงเปรียบเสมือนเป็นสะพานเชื่อมพื้นที่ห้องนั่งเล่นด้านหน้ากับพื้นที่ทุกชั้นของบ้านเข้าด้วยกัน
คอร์ตยาร์ดเปิดโล่งไม่มีหลังคาด้านบนช่วยสร้างบรรยากาศ นำแสงและลมธรรมชาติเข้ามาในบ้านทำให้เกิดอากาศหมุนเวียนได้ตลอด คอร์ตยาร์ดตั้งใจออกแบบมาเพื่อเป็นพื้นที่ใช้งานได้ด้วย มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมเป็นขั้นบันได มีพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ใหญ่ บ่อน้ำพุเล็ก ๆ และสร้างพื้นที่ผ่อนคลายได้อย่างการวางอ่างอาบน้ำอีกด้วย ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่ชอบปรับเปลี่ยนรูปแบบตามการใช้งาน คอร์ตยาร์ดยังเป็นพื้นที่สัญจรที่ลื่นไหลต่อเนื่องจากบริเวณห้องครัวชั้นล่างสู่พื้นที่ห้องนั่งเล่นและไปยังพื้นที่ห้องนอนชั้นบนนอกจากนี้พื้นที่ภายในห้องต่าง ๆ ยังเปิดมุมมองสู่พื้นที่สีเขียวบริเวณคอร์ตกลางบ้าน ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่อาศัยแม้ว่าจะอยู่กันคนละบริเวณของบ้าน
ผู้ออกแบบวางผังแบบเปิดโล่งให้พื้นที่ด้านหลังของชั้นหนึ่งเป็นพื้นที่ครัวและพื้นที่รับประทานอาหารเปิดเข้าหาคอร์ตยาร์ด โดยมีโซนพื้นที่กึ่งเอาท์ดอร์มุมโปรดของเจ้าของบ้านสามารถนั่งได้ตลอดทั้งวันแม้ไม่มีเครื่องปรับอากาศเป็นตัวเชื่อมกับคอร์ตยาร์ดขึ้นไปสู่ห้องนั่งเล่นด้านบนที่ออกแบบโดยใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว อย่างโซฟาสีขาวซึ่งจัดวางให้เทควิวมาที่คอร์ตยาร์ดด้วยเช่นกัน
ห้องนอนมาสเตอร์ได้ปรับแก้หน้าต่างระแนงเดิมให้เป็นกระจกเฟรมอลูมิเนียมที่สามารถเปิดกว้างเห็นคอร์ตยาร์ดได้เหมือนไม่มีกระจกมากั้น พื้นที่วอล์กอินคลอเซตภายในห้องใช้ประตูแบบกระจกกั้นทั้ง 2 บาน ทำให้ห้องเชื่อมต่อกัน กระจกทำหน้าที่สะท้อนแสงจากธรรมชาติทำให้ห้องสว่างและยังสามารถเห็นต้นไม้ใจกลางคอร์ตยาร์ดได้
.
ห้องนอนชั้น 3 มีการปรับพื้นที่จากผังเดิม โดยมีการแบ่งพื้นที่เป็นวอล์กอินคลอเซตเพิ่มแยกจากพื้นที่ห้องนอนโดยผู้ออกแบบยังคงคอนเซ็ปต์ให้พื้นที่เชื่อมโยงกับคอร์ตยาร์ด ห้องน้ำชั้นนี้มีความพิเศษมากขึ้นเพราะผู้ออกแบบได้ตั้งใจทำบานประตูซ่อนคล้ายกับประตูตู้เสื้อผ้า เมื่อเปิดบานประตูออกห้องน้ำพื้นที่ตรงกลางจะสามารถมองเห็นคอร์ตยาร์ดและท้องฟ้าพร้อมกันได้เลย
เฟอร์นิเจอร์และวัสดุภายในบ้าน เน้นเป็นโทนสีขาว ไม้ และหินอ่อน ที่มีความแฟชั่นนิด ๆ มินิมอลหน่อย ๆ ตามคาแรคเตอร์ของเจ้าของบ้าน เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวในการออกแบบเพื่อให้ปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบ เฟอร์นิเจอร์ที่เด่นและเป็นคาแรคเตอร์ของบ้านเลยคือแพนทรี่บาร์ที่สั่งออกแบบคัสตอมวัสดุหินอ่อนลงน้ำยาฟู้ดเกรดพิเศษ สามารถปรับเปลี่ยนเป็นได้ทั้งพื้นที่เตรียมอาหารและโต๊ะบาร์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้งาน
บ้านหลังนี้นอกจากได้พื้นที่คุณภาพที่สามารถนำมาออกแบบพื้นที่ภายในเพิ่มเพื่อเติมเต็มความชอบ ตัวตนของเจ้าของบ้านได้อย่างลงตัว อีกทั้งบรรยากาศธรรมชาติที่เปิดโล่งไปด้วยแสงและลมที่เข้ามาเหมือนได้อยู่บ้านพักตากอากาศ ทำให้บ้านหลังนี้กลายเป็นพื้นที่พิเศษได้ชาร์จพลังของผู้อยู่อาศัยท่ามกลางความวุ่นวานของกรุงเทพฯ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ